06.30

คณะพร้อมกัน  ณ  สนามบินดอนเมือง เคานเตอร์

08.50

บินลัดฟ้าสู่ เมืองมัณฑะเลย์ โดยสายการบิน แอร์เอเชีย เที่ยวบินที่  FD2760

10.15

เดินทางถึง  สนามบิน มัณฑะเลย์   หลังจากผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว

เดินทางต่อไปยัง เมืองมัณฑะเลย์  อดีตราชธานีของพม่า

เมืองมัณฑะเลย์ ซี่งเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่เมืองที่ยังคงใช้ชื่อเดิมเรื่อยมาไม่มีการเปลี่ยนแปลง 

ตั้งอยู่บนที่ราบอันแห้งแล้งและเขตทำนาปลูกข้าวตามแนวลำน้ำตอนบน

มีประชากรมากกว่า 1 ล้านคน  อากาศร้อน (ยกเว้น ช่วงฤดูหนาว ธันวา –กุมภา)

ปัจจุบัน มัณฑะเลย์ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองนาฏศิลป์และคีตศิลป์ที่ดีที่สุดในพม่า

นำท่านเดินทางสู่  เมืองอมรปุระ  อยู่ทางตอนใต้ของเมืองมัณฑะเลย์ออกไป 12 กิโลเมตร

พระเจ้าโบ่ต่อพญาทรงสร้างเมืองอมรปุระ ในปี  1782 ใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ 

ซึงเป็นราชธานีที่มีอายุน้อยที่สุด มีอายุเพียง 76 ปี

โดยย้ายจากเมืองอังวะ ตามคำแนะนำของเหล่าปุโรหิตโหราจารย์ 

ที่หวั่นวิตกในสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ในช่วงที่พระเจ้าโบ่ต่อพญาทรงขึ้นครองราชย์

การชิงอำนาจในช่วงนี้ เริ่มจากการสังหารหมู่

การใช้ไฟกวดล้างโจมตีหมู่บ้านป่างคะ ละแวกเมืองสกาย

คนในหมู่บ้านถูกไฟครอกตายอย่างสยดสยอง

เหล่าพราหมณ์ จึงเห็นพ้องว่าควรย้ายราชานีไปอยู่ที่ อมรปุระแห่งใหม่แทน 

จึงมีการบันทึกเรื่องราวของเมืองหลวงใหม่นี้ ประชากรกว่า 200,000 คนเอาไว้  

เที่ยง

บริการอาหารกลาวงวัน  ณ ภัตตาคาร 

บ่าย

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace )

พระราชวังหลวงของ พระเจ้ามิงดง สร้างขึ้นตามผังภูมิจักรวาลแบบพราหมณ์ปนพุทธ

โดย สมมุติให้เป็นรศูนย์กลางของโลก (เขาพระสุเมรุ)

แผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีกาแพงล้อมรอบทั้ง 4 ทิศ

แต่ละทิศมีประตูทางเข้า 3 ประตู รวมทั้งสิ้น 12 ประตู

ทุกประตู ทำสัญลักษณ์จักรราศีประดับเอาไว้

ใจกลางพระราชวังเป็นห้องพระมหาปราสาท (ห้องสีหาสนบัลลังก์) 

(ยอดปราสาท) หุ้มด้วยแผ่นทองซ้อนกันเจ็ดชั้น สูง 78 เมตร

เชื่อว่าความเป็นไปในจักรวาลจะลอดผ่านยอดปราสาท ตรงลงมาสู่พระแท่นราชบัลลังก์

ช่วยให้กษัตริย์ตัดสินพระทัยในเรืองต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง

นักมนุษย์วิทยา ชื่อ ชาร์ส เคเยส กล่าวถึงพระราชวังไว้ในรายงาน ความว่า

กำแพงวังยาวกว่า 2 กม. มีคูน้ำล้อมรอบ พ้นกาแพงออกไปเป็นบ้านเรือนของสามัญชน

และชาวต่างชาติ ตลาด โรงงานของช่างฝี มือ และร้านรวงต่างๆ

แต่กาแพงเมืองพุทธไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อให้เป็นปราการ

ป้องกันข้าศึกอย่างของจีน และยุโรปในสมัยกลาง

แต่สร้างไว้ เพื่อแสดงว่าพื้นที่ในวงล้อมของกำแพงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์มากกว่า

ปัจจุบัน พระราชวังที่บูรณะใหม่ อยู่ในเขตป้อมของทางกองทัพ

นำท่านเดินทางสู่  วัดพระมหามุนี ( มหามุนิพยา )  สิ่งศักดิ์สิทธ์  1 ใน 5 แห่งของพม่า

แปลว่า วัดปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่  บางครั้งเรียกว่า วัดยะไข่บ้าง วัดพยาจีบ้าง

สร้างในรัชสมัยพระเจ้าโบ่ต่อพญา  แต่ร้อยปีให้หลังได้เกิดเพลิงไหม้

ทำให้ต้องสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อแสดงว่า ครั้งหนึ่งสมเด็จพระบรมศาสดาเสด็จมาแสดงธรรม

โปรดชาวเมืองธรรมวดี  โดยท้าวสักกะได้เสด็จเนรมิตพระพุทธรูปขึ้นมาองค์หนึ่งงามดุจมีชีวิต

ทำให้พระพุทธองค์ทรงพอพระทัยมาก ตรัสว่า

“คถาคตจะเข้าสู่นิพพานเมื่ออายุได้ 80 ปี  

แต่พระพุทธรูปและพระธรรมคำสอนของ คถาคตจะดำรงสืบต่อไปอีก 5,000 ปี 

เท่ากับอายุที่ คถาคด กำหนดไว้ สำหรับศาสนานี้ 

ชาวเมืองจึงอัญเชิญพระพุทธรูปพระมหามุนี ขึ้นประดิษฐาน

เหนือรัตนะบัลลังก์บนยอดเขาสิริคุตตะ 

และเชื่อว่าพระพุทธรูปองค์นี้เป็นหนึ่งในบรรดาพระพุทธรูปเหมือน

ที่สร้างขึ้นในสมัยพระพุทธองค์ยังมีพระชนม์ชีพ  และมีเพียง 5 องค์ เท่านั้น

อีก 2 องค์ประดิษฐานอยู่ที่อินเดีย อีกสององค์ทีเหลือประดิษฐานอยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้า 

พระมหามุนี ถือเป็นต้นแบบพระพุทธรูปทองคำทรงเครืองกษัตริย์ขนาดใหญ่

ที่ได้รับการขนานนามว่า “พระพุทธรูปทองคำ เนื้อนิ่ม”

จากนั้นนำท่านชม  Shwe Inbin Monastery เป็นวัดที่ใช้ไม้ขนาดใหญ่

แกะสลัก มีลวดลายที่สวยงาม และเก่าแก่ สร้างขึ้นในปี  1895

และชม วิหารชเวนันดอร์  เคยตั้งอยู่ในพระราชวังหลวง

เป็นที่ประทับนั่งทำสมาธิของพระเจ้ามินดง

มีเพียงหลังเดียวที่เหลือรอดมาได้ จนสิ้นพระชนม์ที่วิหารแห่งนี้ 

พระเจ้าตีปอก็โปรดฯ ให้ย้ายมาไว้ยังที่อยู่ปัจจุบัน

นำท่านสู่ วัดกุโสดอร์  ใจกลางวัดเป็นเจดีย์มหาล่อกะมาระเส่ง (มหาโลกมารซิน)

สูง 30 เมตร   ซึ่งจำลองแบบมาจากพระมหาเจดีย์ ชเวสิกองแห่งเมือง พุกาม

เป็นวัดที่พระเจ้ามินดงสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 5

และ ถือเป็นครั้งแรกที่มีการจารึกลงบนหินอ่อน 729 แผ่นเป็นภาษาบาลี ทั้งหมด

จารึกพระไตรปิฎก 84,000 พระธรรมขันธ์ และต้องใช้พระสงฆ์ถึง 2,400 รูป

ในการคัดลอกและใช้เวลานานถึง หกเดือน กว่าจะแล้วเสร็จ

พระไตรปิฎกที่ชำระขึ้นในครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็น“พระไตรปิฎกเล่มใหญ่ที่สุดในโลก

จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง มัณฑะเลย์ฮิลล์ ตั้งอยู่กลางเมืองมัณฑะเลย์

สูง 236 เมตร ปากทางขึ้นมาจะมีรูปสิงห์ขนาดใหญ่สองตัว

เป็นจุดชมวิวสวยงามและมีปูชนียะสถานสำคัญ

ให้นักท่องเที่ยวได้ชม ธรรมชาติ ดูทิวทัศน์อันสวยงามที่สุด

และสามารถมองเมืองมัณฑะเลย์ ได้เกือบทั้งหมด

พร้อมทั้งชมพระอาทิตย์ตกดินได้อยางสวยงาม  ่

ค่ำ

บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้น เดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก

ที่พัก

AYAYARWADDY -RIVERVIEW HOTEL หรือเทียบเท่า 

07.00

บริการอาหารเช้า ที่โรงแรม

จากนั้นเดินทางไปยัง เมืองอังวะ

นำท่านเที่ยวชมเมืองอังวะ อย่างเพลิดเพลิน ด้วยรถม้า

ซึ่งเมืองอังวะเป็นราชธานีโบราณอีกแห่งหนึ่งของพม่า

ชมประตูเมืองทางทิศเหนือที่เรียกว่า คาวเซตันคาเป็นประตูที่ปัจจุบันมีความ สมบูรณ์ที่สุด

บอนซาน สร้างโดยพระนางเมนุ มเหสีในพระเจ้าบาจีด่อ 

จากนั้นชม Barayar Monastery สร้างโดย พระเจ้าบายีดอ ปี ค.ศ.1834 

ไม้สักที่มีขนาดใหญ่ สวยงามได้ซุ้มประตู บานประตูหรือหลังคา

ซึ่งอาคารแห่งนี้มีเสาไม้สัก รองรับน้ำหนักอยู่ถึง 267 ต้น 

เที่ยง

บริการอาหารกลาวงวัน  ณ ภัตตาคาร 

บ่าย

หลังอาหาร เดินทางต่อสู่ "เมืองสกาย" นำท่านชมวิวยอดดอยสกายน์ 

ประมาณพุทธศตวรรษที่ 19 มีเจ้าเชื้อสายไทยใหญ่เมืองสกายน์ นาม สอยุน

รวบรวมผู้คนแล้วตั้งตนเป็นกษัตริย์ อยู่ที่เมืองสกายน์ หรือสะแกง

ที่ตั้งอยู่บนไหล่เนินเขาบนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำอิระวดี

ห่างจาก มัณฑะเลย์ไปทางทิศใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร

สกายน์เป็นราชธานีได้เพียง 59 ปี  ภายหลังเกิดการชิงอำนาจกัน 

สุดท้ายพระเจ้าโดะมินพญา ได้รับชัยชนะ  จึงย้ายเมืองหลวงใหม่มาตั้งที่ปากแม่น้ำมิดแง

ตรงที่บรรจบกับแม่น้ำ อิระวดี จนมาเป็นที่ตั้งของเมืองอังวะในเวลาต่อมา

ดอยสกายน์นั้นเป็นภูเขาขนาดกลาง มีจุดชมวิวที่คุณสามารถมองเห็นเจดีย์ต่างๆ

ที่วางตัวอยู่ตามไหล่เขาโดยมีแม่น้ำอิระวดีไหลผ่านเป็นฉากด้านหลัง 

ซึ่งจุดชมวิวที่ว่านี้อยู่บน เจดีย์ซุนอูปุยะชิน บนยอดดอยสกายน์

หลังจากนั้นชม  เจดีย์กวงมูดอร์  หรือวัดเจดีย์นมนาง

สร้างโดยพระเจ้าต้าหลู่ เมื่อปี  ค.ศ. 1636 เพื่อใช้เป็นที่ประประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว

หรือพระทันตะธาตุที่ได้มาจากลังกา เจดีย์นี้เป็นเจดีย์ทรงโอคว่ำแบบ

สิงหล หรือเจดีย์ทรงลังกา มีตำนานเล่าวาองค์ระฆังทรงกลมผาครึ่งซีก

ได้ต้นแบบมาจากถัน พระชายาคนโปรดของพระเจ้า ต้าหลู่

องค์เจดีย์มีความสูง 46 เมตร เส้นรอบวงวัดได้ 274 เมตร

และใช้อิฐในการก่อสร้างมากถึง 10,126,552 ก้อน

จากนั้น ชม Umin Thonse` Pagoda or 30 Caves Pagoda

เจดีย์อูมินทงแส่ ภายในมี พระพุทธรูป 45 องค์ประดิษฐานเรียงกันเป็นครึ่งวงกลม

หลังจากนั้นชม เจดีย์งาทัดจี ตั้งอยู่ ทางทิศตะวันตกของเมือง

สร้างโดยพระเจ้าปินตแหล ในปี  1657 นำท่านร่วมทำบุญถวายปัจจัย 

ณ วัดมหากนดายงค์ (Maha Gandayon Monastery)

ซึ่งเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของพม่าในเมืองอมรปุระ

ซึ่งในช่วงเพลจะมี ภิกษุสงฆ์นับร้อยรูป

เดินเรียงแถวด้วยอาการสำรวม เพื่อรับถวายภัตตาหารเพล  

จากนั้นนำท่านสู่ ทะเลสาบ ต่าวตะหมัน

ระดับน้ำในทะเลสาบจะมีน้ำขึ้นเยอะหรือน้อยขึ้นกับฤดูกาล

ช่วงฤดูหนาว น้ำจะแห้งกลายเป็นแผนดินอันอุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับทำการเพาะปลูก

ในช่วงนั้นชาวบ้านจึงมีการทำการเพาะปลูก หลายชนิด เช่น ข้าวโพด ข้าว

แม้แต่ดอก ทานตะวันก็ดูสวยงามในฤดูหนาว

เหนือท้องน้ำมีสะพานไม้ ทอดข้ามทะเลสาบ  1.2 กิโลเมตร

เรียกวา  สะพานไม้ อู่เป็ง (U-BEN)  สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก 

สร้างขึ้นหลังจากที่ย้ายราชธานีมาอยู่ที่อมรปุระ เป็นสะพานไม้สักที่นำมาจากเมืองอังวะ

โดยเสนาบดีของพระเจ้าโบ่ต่อพญา ซึ่งมีชื่อว่า เสาอู 

จึงเรียกชื่อสะพานไม้นี้ตามชื่อ คือ อู่เป่ง เสาของสะพานใช้ไม้สักถึง 1,208 ต้น

ซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี  พร้อมทั้งชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าอันสวยงามณที่นี้ด้วย

บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ค่ำ

จากนั้นเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก

ที่พัก

AYAYARWADDY –RIVERVIEW HOTEL หรือเทียบเท่า

07.00

บริการอาหารเช้า  ณ  ห้องอาหารของโรงแรม 

08.00

จากนั้น นำท่านสู่ เมืองมิงกุน โดยการล่องเรือไปตามแม่น้ำอิระวดีสู่มิงกุน

จากท่าเรือใกล้เจดีย์ชเวไจยัต เขตเมืองอมรปุระ ทวนน้ำไปหมู่บ้านมิงกุน

ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอมรปุระ แต่อยู่บนเกาะกลางลำน้ำอิระวดี

และไปได้ด้วยเส้นทางเรือเท่านั้น มีอนุสรณ์สถานที่แสดงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าปดุง 

ระหว่างทางจะได้เห็นหมู่บ้าน อิระวดีที่มีลักษณะเป็น “กึ่งบ้านกึ่งแพ”

เนื่องจากระดับน้ำ อิระวดีในแต่ละฤดูกาลจะมีความแตกต่างกันมาก

โดยเฉพาะฤดูน้ำหลาก ระดับน้ำจะขึ้นสูงกวาฤดูแล้ง จะสูงกว่า 10 เมตร

ชาวพม่าจึงนิยมสร้างบ้านกึ่งแพ คือถ้าน้ำขึ้นสูงก็ร่วมแรงกันยกบ้านขึ้นที่ดอน

ครั้นน้ำลงมากก็ยกบ้านมาตั้งใกล้น้ำ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้แม่น้ำในชีวิตประจำวัน 

นำท่านชม เจดีย์มิงกุน ร่องรอยแห่งความทะเยอทะยานของพระเจ้าปดุง

ด้วยภายหลังทรงเคลื่อนทัพไปตียะไข่แล้วสามารถชะลอพระมหามัยมุนี

มาประดิษฐานที่ มัณฑะเลย์ เป็นผลสำเร็จ จึงทรงฮึกเหิมที่จะกระทำการใหญ่ขึ้นและยากขึ้น

ด้วยการทำสงครามแผ่ขยายไปรอบด้าน พร้อมกับเกณฑ์แรงงานข้าทาสจำนวนมาก

ก่อสร้างเจดีย์มิงกุนหรือเจดีย์จักรพรรดิ เพื่อประดิษฐานพระทันตะธาตุที่ได้จากพระเจ้ากรุงจีน

โดยทรงมุ่งหวังให้ยิ่งใหญ่เทียบเท่ามหาเจดีย์ในสมัยพุกาม

และใหญ่โตโอฬารยิ่งกว่าพระปฐมเจดีย์ในสยาม

ซึ่งในเวลานั้นถือเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในสุวรรณภูมิ

ส่งผลให้ข้าทาสชาวยะไข่หรืออาระกันจำนวน 50,000 คน

หลบหนีการกดขี่แรงงานไปอยู่ในเขตเบงกอล เป็นดินแดนในอาณัติของอังกฤษ

แล้วทำการซ่องสุมกาลังเป็นกองโจร ลอบโจมตีกองทัพพม่าอยู่เนืองๆ

โดยพม่ากล่าวหาวาอังกฤษหนุนหลังกลายเป็นชนวนให้เกิดสงครามอังกฤษ-พม่า

อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พม่าเสียเมืองในที่สุด

อย่างไรก็ตาม งานก่อสร้างเจดีย์มิงกุนดำเนินไปได้เพียง 7 ปี  พระเจ้า ปดุงก็เสด็จสวรรคต

ภายหลังทรงพายแพ้ไทยในสงครามเก้าทัพ

มหาเจดีย์อันยิ่งใหญ่ในพระราชหฤทัยของพระองค์จึงปรากฏเพียงแค่ฐาน

ทว่าใหญ่โตมหึมาดังภูเขาอิฐที่มีความมั่นคงถึง 50 เมตร

ซึ่งหากสร้างเสร็จตามแผนจะเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดในโลก

เพราะสูงถึง 152 เมตร ส่วนรอยแตกร้าวตรงกลางฐานเกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี 

ระฆังมิงกุน ไม่ไกลจากฐานเจดีย์มิงกุนคือระฆังมิงกุน ที่พระเจ้าปดุงโปรดฯให้สร้างโดย

สำเร็จ เพื่ออุทิศทวายแด่มหาเจดีย์มิงกุน จึงต้องมีขนาดใหญ่คู่ควรกัน

คือเป็นระฆังยักษ์ที่มีเส้นรอบวงถึง 10 เมตร สูง 3.70 เมตร น้ำหนัก 87 ตัน

เล่าขานกันว่า พระเจ้าปดุงทรงไม่ต้องการให้มีใครสร้างระฆังเลียนแบบ

จึงรับสั่งให้ประหารชีวิตนายช่างทันทีที่สร้างเสร็จ

ปัจจุบันถือเป็นระฆังยักษ์ที่มีขนาดเล็กกว่าระฆังในพระราชวัง เครมลิน ในกรุงมอสโกเท่านั้น

ทว่าระฆัง เครมลินแตกร้าวไปแล้ว

ชาวพม่าจึงภาคภูมิใจว่าระฆังมิงกุนเป็นระฆังยักษ์ที่ยังคงส่งเสียงก้องกังวาน

เคยมีการทดสอบความกว้างใหญ่ของระฆังใบนี้

โดยให้เด็กตัวเล็กๆไปยืนรวมกันอยูใต้ระฆังได้ถึง 100 คน 

เจดีย์ชินพิวมิน (เมียะเต็งดาน) ประดิษฐานอยู่เหนือระฆังมิงกุนไม่ไกลนัก

ได้ชื่อว่าเป็นเจดีย์ที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง  สร้างขึ้นในปี  พ.ศ.2359

โดยพระเจ้าบากะยีดอว์ พระราชนัดดาในพระเจ้าปดุง

เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่พระองค์มีต่อพระมหาเทวี ชินพิวมิน

ซึ่งถึงแก่พิราลัยก่อนเวลาอันควร จึงได้รับสมญานามวา “ทัชมาฮาลแห่งลุ่มอิระวดี”

เจดีย์องค์นี้เป็นพุทธศิลป์ ที่สร้างขึ้นด้วยหลักภูมิจักรวาล

คือมีองค์เจดีย์ สถิตอยู่ตรงกลาง ณ ยอดเขา ่พระสุเมรุ

อันเชื่อกันว่าเป็นศูนย์กลางและโลกและจักรวาล

ล้อมรอบด้วยขุนเขาและมหาสมุทรตามหลักไตรภูมิ

หลังจากนั้นเดินทางกลับมายัง มัณฑะเลย์

เที่ยง

บริการอาหารกลางวัน  ณ ภัตตาคาร 

บ่าย

จากนั้นนำท่านไปชมกรรมวิธีในการทำทอง เครื่องเงิน และงานหัตถกรรมต่างๆของชาวพม่า

สามารถเลือกซื้อเครื่องประดับเงิน และทองที่ร้าน ช็อปแห่งนี้ 

หลังจากนั้นนำท่านไป ช็อบปิ้งกันต่อที่ ตลาดเซจู Zaecho Market 

เป็นตลาดที่ชาวพม่าในย่านนี้ นำพวกงานฝี มือ งานหัตถกรรม และสินค้าพื้นเมืองต่างๆ

มาจำหน่าย ได้เลือกซื้อเพื่อเป็นของฝากติดมือกลับบ้าน

ค่ำ

บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก

ที่พัก

AYAYARWADDY –RIVERVIEW HOTEL หรือเทียบเท่า

04.00

จากนั้นนำท่านไปนมัสการ พระมหามัยมุนี

อันเป็นสิ่งศักสิทธ์สูงสุด 1  ใน 5  แห่งของพม่า

ถือเป็นต้นแบบพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ทรงเครื่องกษัตริย์

ได้รับการขนานนามวา “พระพุทธรูปทองคำเนื้อนิ่ม

ที่พระเจ้ากรุงยะไข่ทรงหล่อขึ้นที่เมืองธรรมวดี เมื่อ ปี  พ.ศ. 689 

สูง 12  ฟุต 7  นิ้ว หุ้มด้วยทองคำเปลวหนา 2  นิ้ว

ทรงเครื่องประดับทองปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 9  ฟุต ในปี  พ.ศ. 2327 

พระเจ้า ปดุงได้สร้างวัดมหามุนี หรือวัดยะไข่ (วัดอาระกน หรือวัดพยาจี)

เพื่อประดิษฐานพระมหามัยมุนี

และในปี  พ.ศ.  2422 สมัยพระเจ้า สีปอ ก่อนจะเสียเมืองพม่าให้อังกฤษ

ได้เกิดไฟไหม้วัดทองคำ จึงทำให้ทองคำเปลวที่ปิดพระละลาย

สามารถเก็บเนื้อทองได้น้ำหนักถึง 700  บาท

ต่อมาในปี  พ.ศ.2426  ชาวพม่าได้เรี่ยไรเงินเพื่อบูรณะวัดขึ้นใหม่มีขนาดใหญ่กวาเดิม

โดยสายการออกแบบของช่างชาวอิตาลี

จึงนับได้วาเป็นวัดที่สร้างใหม่ที่สุดแต่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ที่สุดในเมืองพม่า

โดยรอบ ๆ ระเบียงเจดีย์ยังมีโบราณวัตถุ

ที่นำไปจากกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งกรุงแตกครั้งที 1 

พร้อมทั้งร่วมพิธีการอันสำคัญล้างพระพักตร์

ถือเป็นการสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล 

06.30

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

08.00

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่  สนามบิน มัณฑะเลย์

11.05

ออกเดินทางกลับ   กรุงเทพฯ  โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที4ยวบินที4  FD 2761

13.30

เดินทางถึง    สนามบินดอนเมือง  กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

3 วันเชียงราย-พม่า-เชียงตุง ทางเครื่องบิน 9,900 บาท
03-05 กค. 23-25 ตค. 10-12 ธค.

3 วัน พม่า-เชียงราย-ตองยี-อินเล   
15-19 ต.ค , 09-13 พ.ย

ทัวร์พม่า 4 วัน ท่องเที่ยว พม่า

ทัวร์พม่า-ย่างกุ้ง บิน Air asia กับ Mayanmar Air

ทัวร์ ย่างกุ้ง- พระธาตุอินแขวน-เจดีย์ชเวดากอง

ทัวร์พม่า 4 วัน  
ทัวร์พม่า 27-30 มี.ค. / 14,900 บาท 
ทัวร์พม่า 11-14 เมย. / 16,900 บาท
ทัวร์พม่า 01-04 พค. / 17,500 บาท
ทัวร์พม่า 2-5 , 8-11 พ.ค. / 14,900   
ทัวร์พม่า 02-05 พค. / 16,900 บาท
ทัวร์พม่า 11-14 มิย. / 15,900 บาท ( โปรโมชั่น จองล่วงหน้าด่วน )
ทัวร์พม่า จองด่วน รวมก๊วนพากันไป    

ทัวร์พม่า 4 วัน พม่า-ย่างกุ้ง-มัณฑเลย์

ทัวร์พม่า รวมภาพ ใน ทัวร์พม่า

• 5 วัน พม่า-ย่างกุ้ง-พุกาม-มัณฑเลย์
  
  
• ทัวร์พม่า 5 วันพม่า-เเชียงตุง-เมืองลา 7,900 บาท ไปกลับ-รถ
  18-22 มิย. / 02-06 กค. / 03-07 กค. /
  17-21 กย. / 22-26 ตค. /
  22-26 ตค. / 04-08 ธค.  /
  
  
• รวมภาพ ใน พม่า

• 6 วัน พม่า-ย่างกุ้ง-พุกาม-มัณฑเลย์-พระธาตุอินแขวน
• 6 วัน พม่า-ย่างกุ้ง-พุกาม-มัณฑเลย์-อินเล
• 6 วัน พม่า- จีน สิบสองปันนา-เชียงราย-เชียงตุง-เมืองลา
  

         ทัวร์พม่า  7 วัน ท่องเที่ยว พม่า

• 7 วัน พม่า-จีน-สิบสองปันนา-เชียงรุ้ง-เชียงราย-เชียงตุง-เมืองลา
  
  ทัวร์พม่า รวมภาพ ใน พม่า

          ทัวร์พม่า 8 วัน ท่องเที่ยว พม่า

• 8 วัน พม่า-จีน-สิบสองปันนา-เชียงรุ้ง-คุนหมิง

         ทัวร์พม่า 7 วัน  พม่า-เชียงตุง-เมืองลา-จีน 12 ปันนา

        ทัวร์พม่า  6 วัน เจดีย์ชเวดากอง- พระธาตุอิงแขวน - มัณฑเลย์- อินเล

มีดปอกผักบุ้ง
เวียดนาม

ทัวร์สิบสองปันนา

ทัวร์คุนหมิง

มีดปอกผักบุ้ง
เวียดนาม

มีดปอกผักบุ้ง
เวียดนาม

ทัวร์มัณฑะเลย์

พัดเวียดนาม

ชา เวียดนาม

กาแฟ G 7- 3 in 1

มีดสารพัดประโยชน์