สัมผัสมรดกโลกทางวัฒนธรรม ยามหนาว

แพคเกจทัวร์ กรุงเทพฯ – หลวงพระบาง – กรุงเทพฯ

           

        โปรแกรมท่องเที่ยวลาวหลวงพระบางลองเลือกสักทริปสิ

 

3 วัน 2 คืน

เมืองหลวงพระบางได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้เมืองหลวงพระบางเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อปี ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538 )ด้วยความดั้งเดิมในสถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ทำให้เมืองหลวงพระบางอดีตราชอาณาจักรล้านช้างที่ยิ่งใหญ่ มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกไม่ขาดสาย แล้วท่านได้ไปสัมผัสหรือยัง ?

 

กำหนดการเดินทาง ที่เตรียมเอาไว้

 

วันแรก กรุงเทพฯ – หลวงพระบาง – พิพิธภัณฑ์พระราชวังหลวง – วัดเชียงทอง – ภูเขาพูส (L/D)

    คณะเดินทางพร้อมกันที่สนามบินดอนเมืองอาคารโดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 2 เคาน์เตอร์ 10 สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เพื่อออกเดินทางสู่ เมืองหลวงพระบาง โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ PG 634 หรือ PG 632 หรือ PG 630 ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาท

    จากนั้นถึง สนามบินเมืองหลวงพระบาง ประเทศ สปป.ลาว ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง แต่เดิมเมืองหลวงพระบางมีชื่อ เมืองเชียงดง-เชียงทอง เมื่อเจ้าฟ้างุ้ม เสด็จเสวยราชย์ปีมะเส็ง ทรงตั้งระเบียบราชการบ้านเมืองใหม่ทรงนำพุทธศาสนา เข้ามาจากเมืองเสียมราฐ พร้อมกับอัญเชิญพระบางเสด็จจากเมืองเขมร มาประดิษฐ์ฐานด้วยเหตุนี้เองเมืองเชียงดง - เชียงทอง จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น เมืองหลวงพระบาง (Luang Phrabang Provinces)

    พักรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารก่อนนำคณะเข้าสู่ที่พัก (Check in hotel)

    หลังนำท่าน Check in นำท่านนมัสการ พระธาตุหมากโม ณวัดวิชุนราช (Visounnarath Temple) อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองหลวงพระบาง สร้างในรัชสมัยเจ้ามหาชีวิตวิชุนราช (พ.ศ. 2046 ) ต่อมาเมื่อปีพ.ศ. 2057 พระนางพันตีนเซียง อัครมเหสีเจ้ามหาชีวิตวิชุนราช โปรดให้สร้าง พระเจดีย์พระปทุมเมื่อพระธาตุสร้างเสร็จมีลักษณะเหมือนแตงโมผ่าซีก ชาวบ้านเลยเรียก พระธาตุหมากโม พระธาตุนี้ได้รับการบูรณะถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกชำรุดเพราะเมื่อจีนฮ่อ มาปล้นเมืองได้ทำลายเพื่อปล้นของมีค่าในองค์พระธาตุเจ้ามหาชีวิตสักริน ได้บูรณะเมื่อ พ.ศ. 2438 ครั้งที่สองในสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์เมื่อปี พ.ศ. 2457 ชมสิม (อุโบสถ) ศิลปะแบบสิมทรงไทลื้อสิบสองปันนา เคยเป็นที่ประดิษฐานองค์พระบาง และพระสำคัญอีกหลายองค์ และยังเคยเป็นพิพิธภัณฑ์ทางศาสนา เมื่อปี พ.ศ. 2485 จากนั้นนำคณะชม วัดเชียงทอง (Xing Thong Temple) ริมฝั่งแม่น้ำโขง วัดนี้เป็นวัดหลวงที่เก่าแก่วัดหนึ่งสร้างในรัชสมัยสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช พ.ศ. 2102 - 2103 ทรงสร้างขึ้นก่อนที่พระองค์จะทรงย้ายเมืองหลวงไปเวียงจันไม่นาน วัดนี้ได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตมาตลอดจึงนับเป็นวัดหลวงที่มีความงดงามที่สุดในเมืองหลวงพระบาง * ชมสิม (อุโบสถ) ศิลปะแบบหลวงพระบาง หลังคาแอ่นโค้งลาดต่ำ ซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น มีช่อฟ้า ที่เปรียบเป็นเขาพระสุเมรุ และเขาสัตบริภัณฑ์ รองรับด้วยปลาอานนท์ ชมผนังภายในสิมที่มีลายรดน้ำปิดทองบนพื้นดำ (ลายฟอกคำ) ชมต้นไม้ทองด้านหลังสิมที่งดงามนักเมื่อต้องแสงแดดยามบ่าย

    * นมัสการพระม่าน ณ หอไหว้หลังสิม บริเวณรอบๆ มีภาพประดับกระจกสีเล่าถึงวิถีชีวิตของชาวหลวงพระบาง นิทานพื้นบ้าน

    * ชมโรงราชรถพระโกศล (โรง-เมี้ยนโกศ) ของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา พระราชมารดา และพระเจ้าอา ออกแบบโดยเจ้ามณีวงศ์ แกะสลักโดยช่างเพี้ยตัน ภายในบรรจุพระพุทธรูปแกะสลักไม้จำนวนมากที่เก็บมาไว้จากวัดร้างต่างๆ ในหลวงพระบาง ด้านนอกผนังด้านหน้าแกะสลักเรื่องราวของรามเกียรติ์แต่เดิมลงลักปิดทองไว้แต่เมื่อมีการบูรณะใหม่ได้มีการทาสีทองทับลงไป

    นำท่านขึ้น ภูเขาพูสี (Phou Si Mountian) ความสูงราว 150 เมตรมีบันไดขึ้นด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 328 ขั้น เมื่อถึงยอดท่านจะได้นมัสการพระธาตุจอมสี สร้างในสมัยพระเจ้าอนุรุท พ.ศ. 2337 พระธาตุทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมทาสีทอง อยู่บนฐานสี่เหลี่ยม กว้างยาวด้านละ 10.55 เมตร ยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด 7 ชั้น สูงประมาณ 150 เมตร ชื่อเต็มขององค์พระธาตุมีชื่อ “ จอมพูนันทะกางฮีสีสัตนาค ” เชิญท่านยกพระอธิษฐานที่ประดิษฐานอยู่ในโบสถ์เพื่อเป็นสิริมงคล ท่านสามารถชมวิวเมืองหลวงพระบางได้ทุกทิศบนยอดพูสีแห่งนี้ ขากลับนำคณะชมถ้ำที่ครั้งหนึ่งเคยมีพระฤาษีมานั่งวิปัสสนา (ก่อนเข้าถ้ำระวังศีรษะ) เดินลงเขาไปเล็กน้อย ท่านจะได้นมัสการ รอยพระพุทธบาท (The Lord Buddha footprint) ลักษณะ รอยพระพุทธบาทนี้หลายคนบอกไม่เคยเห็นในลักษณะแบบนี้ เป็นรอยที่เหมือนพระพุทธองค์ทรงเหยียบแบบกดส้นพระบาทลงบนก้อนหิน เมื่อลงจากยอดภูสีท่านจะพบกับ ตลาดค่ำ (Night Market) เป็นถนนคนเดินตอนเย็นตั้งแต่เวลา 5 โมงเย็นถึงประมาณ 4 ทุ่มก็จะมีชาวลาวสูง ลาวเถิง ลาวม้ง ชาวบ้านผานม แม้นแต่ชาวหลวงพระบางเองก็จะนำสินค้าพื้นเมืองไม่ว่าจะเป็นผ้าปัก ผ้าทอมือ ผ้านุ่ง ผ้าซิ่น เครื่องไม้ สินค้าจากเมืองจีน เวียดนาม ถูกวางอยู่บนถนนตั้งแต่หน้าพระราชวังจน ถึงสี่แยกวัดใจ (ไปรษณีย์) จากนั้นจะนำท่านรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารเย็นนำท่านชมสินค้าที่ ตลาดค่ำ ก่อนนำท่านกลับโรงแรมที่พัก

 

วันที่สอง ทัวร์นอกเมืองหลวงพระบาง (B/L/D)

 

    รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก จากนั้นนำท่านนั่งลดชมview และวิถีชีวิตยามเช้าของชาวบ้านตามริม ล่องแม่น้ำโขง แม่น้ำนี้มีความสำคัญมากสำหรับชาวหลวงพระบาง เป็นแหล่งประมงแหล่งเกษตรกรรม และชม บ้านซ่างไห (Ban X a ng Hai) ชาวบ้านที่นี่มีอาชีพในการหมักเหล้าสาโทและต้มเหล้าโรงวางจำหน่ายและยังเป็นแหล่งรวมสินค้าพื้นเมืองจำพวกผ้าทอ เครื่องกระเบื้องเคลือบเก่าจากเมืองจีน เหล้าดองยาจากสัตว์ป่า จากนั้นนำท่านล่องเรือต่อไป ถ้ำติ่ง ( Thing Cave) ซึ่งมี 2 ชั้น มีความสูงจากระดับน้ำ 60 เมตร ถ้ำนี้ถูกค้นพบโดยสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช

    พักรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านสู่ บ้านผานม (Ban Phanom) อยู่ห่างจากตัวเมือง 3 กม. หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ริมน้ำคาน หมู่บ้านชาวไทลื้อที่อพยพมาจากเมืองสิบสองปันนา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1347 ในอดีตหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านของข้าราชบริพารของเจ้ามหาชีวิตแห่งอาณาจักรล้านช้าง ผู้หญิงมีหน้าที่หลักคือ การทอผ้าถวายราชสำนักตามพระราชกระแสรับสั่งของเจ้ามหาชีวิตและพระราชวงศ์ ความงดงามของลวดลายถูกเก็บสะสมจากรุ่นต่อรุ่น เมื่อรัฐบาลเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2518 รัฐบาลสร้างศูนย์เพื่อให้ชาวบ้านทำวิธีการยอมไหม และทอผ้า และเลือกซื้อผ้าตามอัธยาศัย นำคณะนั่งรถ ระยะทางประมาณ 30 ก.ม. เพื่อชม น้ำตกตาดกวงสี (Tad Khuang Sy) น้ำตกนี้มีความสูงประมาณ 80 เมตร เป็นน้ำตกหินปูนที่มีความงดงามแห่งหนึ่งในเมืองหลวงพระบางอยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ บริเวณน้ำตกล้อมรอบไปด้วยป่าโปร่ง อากาศชื้นอยู่ตลอดโดยเฉพาะฤดูหนาวต้นมอสจะปรกคลุมพื้นดินงดงามเหมือนปูด้วยพรมสีเขียวรอต้อนรับนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม น้ำตกนี้ในฤดูร้อนเป็นสถานที่สำหรับนักท่องเที่ยวได้ลงเล่นน้ำได้อย่างเพลิดเพลิน จากนั้นรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ได้เวลาสมควรนำท่านกลับโรงแรมที่พัก /อิสระตามอัธยาศัย

 

วันที่สาม หลวงพระบาง – กรุงเทพฯ (B/L)

 

    เชิญท่านร่วม ตักบาตรข้าวเหนียว ในทุกตอนเช้าพระสงฆ์และสามเณรจากวัดต่างๆ จะเดินออกบิณฑบาตเป็นแถวอย่างมีระเบียบนับร้อยๆ รูป โดยการตักบาตรนี้จะรับแต่ข้าวเหนียวสีขาวเท่านั้น กับข้าวไม่ต้องใส่ในบาตร จากนั้นนำท่านชม ตลาดเช้า (Morning Market) ชมวิถีชีวิตยามเช้าของชาวเมืองหลวงพระบางริมแม่น้ำโขง ผักไร้สารพิษ ปลาแม่น้ำโขง และอาหารป่าหลายชนิดที่ขาดไม่ได้คือ ร้านกาแฟประชานิยม (Pachaniyoum Coffice) กาแฟลาวที่อร่อยที่สุดยามเช้า รับประทานพร้อม ขนมคู่ (ปาท่องโก๋) และ ข้าวจี่ (ขนมปังฝรั่งเศส) จากนั้นกลับไปรับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก (กรุณาเก็บสัมภาระเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย)

    นำท่านชม พิพิธภัณฑ์พระราชวังหลวง ( Royal Palace Museum) ตั้งอยู่กลางเมืองริมแม่น้ำโขง สร้างในรัชสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ (พ.ศ. 2447 ) ออกแบบโดย สถาปนิกชาวฝรั่งเศส เป็นการผสมผสานกันระหว่างศิลปะฝรั่งเศสกับศิลปะลาว ในอดีตเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์จนพระองค์สวรรคตก็มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อพ.ศ. 2518 ได้มีการเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์

    * นมัสการ องค์พระบาง (Pra Bang) พระพุทธรูปประทับยืนปางห้ามสมุทร (ปางห้ามญาติ) ตามตำนานกล่าวว่า หล่อในลังกาทวีป เจ้าเมืองเขมรพระบิดาของพระนางแก้วเก็งยา พระมเหสีเจ้าฟ้างุ้มได้ทรงขอให้นำ พระพุทธรูป และพระสงฆ์ เข้ามาในเมืองเชียงดง – เชียงทอง ชมห้องรับแขก ท้องพระโรง ชมห้องรับธรรม ห้องรับแขกของพระมเหสี รูปวาดสามมิติของเจ้ามหาชีวิตและราชวงศ์

    นำท่านชม วัดใหม่สุวันนะพูมาราม (Wat MaiSuvannaphomaram) ในสมัยเจ้าอนุรุทธราชเมื่อปี พ.ศ. 2339 ได้มีการสร้างขึ้นใหม่จากเดิม วัดนี้ได้มีเจ้ามหาชีวิตหลายองค์บูรณะซ่อมแซมมาตลอด สิมของวัดนี้เป็นศิลปะแบบผสมผสาน ชมผนังสีแดงที่ติดพระพิมพ์นับไม่ถ้วน บานประตูไม้แกะสลัก ชมเรื่องราวพระเวชสันดรที่มีการนำปูนมาปั้นปิดทองโดยช่างเพี้ยตันแห่งราชสำนัก นำท่านชมการทำเครื่องเงินแบบดั้งเดิมของเมืองหลวงพระบาง ร้านโพธิ์สัตย์เจ้าของได้สืบทอดวิธีตีเครื่องเงินจากบิดา (เพี้ยคำ) ผู้เคยทำมงกุฎถวายกับเจ้ามหาชีวิตในอดีต

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ก่อนนำท่านเดินทางสู่สนามบินหลวงพระบางเพื่อเดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดยสายการบินบางกอกเวย์ส เที่ยวบินที่ PG 635 หรือ PG 631 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

 

 

ราคาต่อ 1  ท่าน

( บาท )

เดินทาง 2 ท่านขึ้นไป

Include

Tour / hotel / guide

    Phousi

     Hotel

     ( ตั้งอยู่ในเมือง)

  

  Banlao     Guesthouse

  ( ตั้งอยู่ในเมือง )

 

           Sabaydee Guesthouse

  ( ตั้งอยู่ในเมือง )

 

 

ราคา พักคู่ ( TWIN STANDARD )

7500

6700

6100

ราคา พักเดี่ยว ( single Standard )

         9600

7900

7600

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

  

 

ราคาต่อ 1 ท่าน

(บาท)

เดินทาง 5 ท่านขึ้นไป

Include

Tour / hotel / guide

 

     Phousi

     Hotel

( ตั้งอยู่ในเมือง )

  

 

     Banlao  

Guesthouse

   ( ตั้งอยู่ในเมือง )

 

 

 

Sabaydee Guesthouse

   ( ตั้งอยู่ในเมือง )

 

 

ราคา พักคู่    (TWIN STANDARD)

6800

6000

5300

ราคา พักเดี่ยว (single Standard)

8900

7300

6000

 

ให้เอาราคาที่พักรวมค่าบริการ + ค่าเครื่องบิน ไป-กลับ อีก  11,120 บาท

 

ตัวอย่างเช่น รายการ 5 คน ขึ้นไปพัก

sabaydee guesthouse  พักเตียงคู่   คนละ   5300+11120 = 16420  บาท

sabaydee guesthouse   เตียงเดี่ยว  คนละ    6000+11120  = 17120   บาท

 

อัตรานี้ไม่รวมค่าภาษีสนามบินไทย 500 บาท ของลาวอีกสัก 400 บาท

 

สนใจจองการเดินทางได้ที่  09-9246304 หรือ 02-8867018-9, 02-9481866 กด 1 หรือ 3

 

จอง.......